วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558



ต้นกำเนิดของสายพันธุ์กระต่าย (The origin of breeds)

ในปัจจุบันได้มีพันธุ์กระต่ายใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งอาจเกิดขึ้นจาก กรณีใดกรณีหนึ่งใน 3 กรณีคือ 
         1.เกิดจากการกลายพันธุ์ (Mutation) 
หมายถึงมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางพันธุกรรม โดยทันทีทันใด เช่น ถูกรังสี ตัวอย่าง เช่น กระต่ายพันธุ์ซาตินซึ่งเป็นกระต่ายของ อเมริกาเกิดมาจากการกลายพันธุ์ของกระต่ายพันธุ์ ฮาวาน่า , กระต่ายพันธุหูตก (Lop - ear) กระต่ายพันธุ์เร็กซ์ (Rex) ซึ่งเป็นกระต่ายพันธุ์ขนสั้น หรือกระต่ายพันธุ์แองโกล่าเป็นต้น
      2.เกิดจากการรวมกัน (Combination) ของลักษณะที่มีอยู่ของกระต่ายตั้งแต่สองพันธุ์หรือมากกว่านั้น ในกรณีนี้การเกิดอาจเกิดโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ได้ 
        3.เกิดจากการคัดเลือก (Selection) 
ลักษณะเฉพาะเพื่อให้แตกต่างไปจากพันธุ์เดิม เช่น กระต่ายพันธุ์ เนเธอร์แลนด์ดวาร์ฟ ซึ่งเป็นกระต่ายของประเทศ เนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นกระต่าย ของประเทศ เนเธอร์แลนด์ เกิดจากการคัดเลือกจากกระต่ายพันธุ์โปลิช ซึ่งเป็นกระต่ายของประเทศ อังกฤษ
                     การจำแนกสายพันธุ์กระต่าย (Classification of breeds)

               การจัดแบ่งพันธุ์กระต่ายค่อนข้างจะทำได้ยาก แต่วิธีที่กระทำอยู่คือ 
                                การจัดแบ่งตามขนาด 
           1. กระต่ายพันธุ์ขนาดใหญ่ (Large breeds)
กระต่ายที่มีขนาดใหญ่มักจะเรียกว่ากระต่ายยักษ์ (Giant Rabbit) กระต่ายที่มีขนาด ใหญ่โตที่สุดในโลก คือ กระต่ายพันธุ์เฟลมมิชไจแอนท์ ส่วนกระต่ายพันธุ์อื่น ๆ ได้แก่ ไจแอนท์ ชินชิลล่า พันธุ์เชคเกอร์
        2. กระต่ายพันธุ์ขนาดกลาง (Medium breeds)
มีน้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 4 - 5.5 กิโลกรัม ที่นิยมเลี้ยงได้แก่ พันธุ์นิวซีแลนไวท์ พันธุ์ ซาติน เป็นต้น 
     3. กระต่ายขนาดเล็กพันธุ์ขนาดเล็ก (Small breeds) 
กระต่ายที่มีขนาดเล็กนิยมเลี้ยงกันได้แก่พันธุ์แทน พันธุ์ฮาวาน่าเป็น ต้น กระต่ายเหล่านี้มีน้ำหนักประมาณ 1.8 - 3.2 กิโลกรัม          
                                                                                    

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น